วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | ว่าง | |
---|---|---|---|---|---|
05 ก.พ. 68 - 12 ก.พ. 68 | 73,888 บาท | 15,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | 1 | จอง |
12 มี.ค. 68 - 19 มี.ค. 68 | 73,888 บาท | 15,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | -1 | จอง |
02 เม.ย. 68 - 09 เม.ย. 68 | 80,888 บาท | 15,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | 25 | จอง |
30 เม.ย. 68 - 07 พ.ค. 68 | 80,888 บาท | 15,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | 25 | จอง |
22.00 น. สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประตูทางเข้าหมายเลข 10 ชั้น 4 สายการบิน Emirate (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจัดเตรียมเอกสารการเดินทางสำหรับทุกท่าน และนำท่านโหลดสัมภาระเช็คอิน (ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่อง เนื่องจากต้องเป็นไปตามระบบของสายการบิน)
01.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK385 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
04.55 น. แวะเปลี่ยนเครื่องที่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
07.50 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK73 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
12.25 น. เดินทางถึง เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ ปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส สถานที่ในฝันแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำแซนบริเวณตอนเหนือของประเทศ หนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก เมืองแห่งแสงสีและความศิวิไลซ์ เพื่อชมเมืองสำคัญ และศูนย์กลางยุโรปตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 จนถึงปัจจุบัน
นำทุกท่านผ่านชมลานประวัติศาสตร์ จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concord) จัตุรัสใหญ่ใจกลางเมืองที่สำคัญ ในอดีตนั้นบริเวณนี้เคยเป็นลานประหาร แม้กระทั่งบุคคลสำคัญอย่างกษัตริย์หลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอองตัวเน็ตก็ถูกประหารที่นี่ แวะถ่ายรูปกับ ประตูชัยอาร์คเดอทรียงฟ์ (Are de Triomphe) อนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะขนาดใหญ่แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลาง จัตุรัสชาร์ล เดอ โกล (Place Charles de Gaulle) จุดเริ่มต้นของถนน 12 สายสำคัญของปารีส พาท่านถ่ายรูปกับ หอไอเฟล (Tour Eiffel) แลนด์มาร์กแห่งกรุงปารีส หอคอยสูง 324 เมตร สูงเทียบเท่ากับตึก 81 ชั้น เคยได้ชื่อว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกมาแล้วในช่วงปี 1889 อยู่คู่บ้านคู่เมืองปารีสมาตลอด 130 กว่าปี อีกหนึ่งเอกลักษณ์คือ หอไอเฟล นั้นสร้างขึ้นด้วยเหล็กเกือบทั้งหมด ด้านบนยังเป็นจุดชมวิวชั้นเยี่ยมที่ สุดแสนโรแมนติก
นำท่าน ล่องเรือ บาโต มูช (Bateaux-Mouches) ชมวิวแม่น้ำแซนน์ แม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความงามของสถาปัตยกรรมสองฝั่งแม่น้ำ เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เกาะกลางแม่น้ำอีลเดอลาซิติ มหาวิหารนอเทรอดาม หอไอเฟล เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองปารีส
จากนั้นนำท่านไปยัง พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) หรือพระราชวังลูฟวร์ในอดีต เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและโด่งดังที่สุดของปารีส เป็นที่รวบรวมงานศิลปะที่มีค่าที่ของโลกจำนวนมาก (อิสระถ่ายภาพด้านนอก ไม่รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์) พาท่านไปยังห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ชื่อดังของปารีส ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galeries Lafayette) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่สุดหรูหรา ภายในอาคารเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม อีกทั้งยังยิ่งใหญ่อลังการสมกับเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีอายุมากกว่า 100 ปี มีสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม เครื่องสำอาง อาทิ Chanel , Christian Dior, Prada, Balenciaga ฯลฯ รวมไปถึงมีภัตตาคารซึ่งให้บริการอาหารฝรั่งเศสซึ่งเป็นรสชาติเฉพาะของเมืองปารีสอีกมากมาย
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! หอยเอสคาโก้
ที่พัก Mercure Paris Velizy หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองแรงส์ (Reims) เมืองในแคว้นกร็องแต็สต์ (Grand Est) เคยเป็นหัวเมืองหลักในสมัยจักรวรรดิโรมัน จนเมื่อเข้าสู่ยุคของราชวงศ์ฝรั่งเศส ก็ยังคงความสำคัญไม่เปลี่ยนแปลง สังเกตเห็นได้ชัดจากอาคารสวยต่างๆ ที่เรียงรายอยู่ในตัวเมือง แถมด้วยโบสถ์วิหารและคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่กระจายอยู่รอบเมืองรอให้ค้นหา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที)
ถ่ายรูปกับ มหาวิหารแรงส์ (Reims Cathedral) หรือในชื่ออย่างเป็นทางการว่า มหาวิหารน็อทร์-ดาม เดอ แรงส์ (Cathedral Notre-Dame de Reims) มหาวิหารเก่าแก่ที่ยืนหยัดมากว่า 740 ปี สร้างแทนที่วิหารหลวงแห่งเก่าที่ถูกทำลายลงไปเพราะไฟไหม้ มหาวิหารแรงส์ได้กลายเป็นวิหารที่มีความสำคัญอย่างมากต่อฝรั่งเศส เพราะพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสและพิธีอภิเษกสมรสก็ได้จัดขึ้นที่มหาวิหารแรงส์นี้เอง ที่ด้านหน้าวิหารมีทั้งรูปปั้นนูนสูงบรรจงเรียงร้อยเป็นเรื่องราวบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสและในทางศาสนา เข้ามาด้านในก็สวยไม่แพ้กันด้วยการประดับตกแต่งด้วยกระจกสีขนาดใหญ่และรูปปั้นน่าทึ่งมากมาย มหาวิหารแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้เมื่อปี ค.ศ. 1991
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางมุ่งหน้าสู่เมือง สตราสบูร์ก (Strasbourg) เมืองในแคว้นอาลซัส (Alsace) หนึ่งในเมืองท่าริมแม่น้ำที่สำคัญของฝรั่งเศส เป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมและการค้าขายที่สำคัญตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากเป็นที่ตั้งยุทธศาสตร์ มีการตั้งถิ่นฐานของพวกเคลต์เคยตกเป็นของโรมันใน ค.ศ. 1697 ภายใต้การปกครองของเยอรมัน เป็นเมืองที่เป็นหัวข้อพิพาทระหว่างเยอรมันกับฝรั่งเศสมาหลายศตวรรษ สถาปัตยกรรมภายในเมืองถูกตกแต่งโดยศิลปะที่ผสมผสานของทั้ง 2 ประเทศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง)
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Hilton Strasbourg หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมเมือง สตราสบูร์ก (Strasbourg) ในปัจจุบันถูกเลือกให้เป็นเมืองหลวงของสหภาพยุโรป เที่ยวชมบริเวณ จัตุรัสเกลแบร์ (Place Kleber) จัตุรัสใหญ่กลางเมืองที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในบริเวณจัตุรัสนี้นอกจากจะมีความสวยงามด้วยอาคารต่างๆ ที่รายล้อม แล้วยังมากมายด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟมากมาย ทำให้เป็นย่านการค้าที่ยอดนิยมแห่งหนึ่ง ถ่ายรูปกับ มหาวิหารนอร์ทเทอดาม (Cathédrale de Strasbourg) ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังโดยสร้างขึ้นในช่วงยุคกลางถึงปลายศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานกว่า 260 ปี ตัววิหารมีการรวบรวมรูปแบบการก่อสร้างที่งดงามหลายส่วนรวมถึงรูปแกะสลักต่างๆ ในช่วงยุคกลาง ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป และมียอดโดมสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก
นำท่านเดินทางต่อไปยังเมือง กอลมาร์ (Colmar) เมืองหลวงแห่งแคว้นอาลซัส ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เมืองที่ได้ชื่อว่า “ลิตเติ้ลเวนิส” ด้วยเพราะสายน้ำมากมายที่ตัดผ่านตัวเมือง และอาคารต่างๆ ที่สร้างเลียบริมคลอง ทำให้ได้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับที่เวนิสของอิตาลี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
อิสระเดินเล่นชมเมืองกอลมาร์ แม้จะเป็นเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่แต่น่าดึงดูดด้วยความเงียบสงบ และความสวยของอาคารบ้านเรือนต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์แบบผสมผสานระหว่างสไตล์เยอรมันและฝรั่งเศส แวะถ่ายภาพ โบสถ์เซนต์มาร์ติน (St. Martin’s Church) โบสถ์หลักของเมืองกอลมาร์มาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 14 สวย และงดงามด้วยศิลปะการออกแบบสไตล์โกธิค โดดเด่นด้วยหอคอยที่สูงตระหง่านถึง 71 เมตร หนึ่งในแลนด์มาร์กของกอลมาร์
จากนั้นมุ่งหน้าสู่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) พาท่านชมเมือง ลูเซิร์น (Lucerne) เมืองเล็กๆ ที่ชวนอบอุ่นอยู่ริมฝั่ง ทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne) มองเห็นแนวเทือกเขาแอลป์เรียงสลับเป็นทิวสวยงามทุกฤดูกาล นำท่านถ่ายภาพคู่กับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) สัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึก และเป็นเกียรติแก่เหล่าทหารหาญชาวสวิสซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์นมากกว่า 700 คนที่ออกรบและเสียชีวิตในฝรั่งเศสเมื่อครั้งเกิดสงครามปฏิวัติยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 อีกจุดหนึ่งที่น่าชมมากในย่านนี้ก็คือ สะพานไม้ชาเปล (Chapel bridge) สะพานที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 600 ปี สร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามไปมาระหว่างสองฝั่งแม่นํ้ารอยซ์ (Reuss River) อิสระให้ท่านเดินเล่นช้อปปิ้งย่านเมืองเก่าตามอัธยาศัย
** อิสระอาหารมื้อเย็น เพื่อการเดินเล่น และช้อปปิ้งอย่างต่อเนื่อง **
ที่พัก รงแรม Ibis Styles Luzern City หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านขึ้นสู่ ยอดเขาทิตลิส (Titlis) โดย กระเช้าหมุนไฟฟ้า 360 องศา ระหว่างชมวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ (The Alps) ที่มีความสวยงาม ยอดเขาทิตลิสมีความสูง 3,028 เมตร ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดทั้งปีเป็นยอดเขาที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นสกี และทำกิจกรรมบนลานหิมะเป็นจำนวนมาก อิสระให้ทุกท่านได้เดินเล่นชม ถ้ำน้ำแข็ง (Glacier Grotto) ที่มีความยาวถึง 130 เมตร มีความลึกที่สุดถึง 15 เมตร และสัมผัสความงดงามด้านบนเทือกเขาตามอัธยาศัย **รวมค่ากระเช้าขึ้น-ลง ยอดเขาทิตลิสเรียบร้อยแล้ว**
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารด้านบน
หลังอาหารนำทุกท่านเดินทางลงจากยอดเขาทิตลิส แล้วข้ามไปยังประเทศอิตาลี เมืองโคโม่ (Como) เมืองที่เพียบพร้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงามทั้งเทือกเขาแอลป์สูง และทะเลสาบโคโม่ ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ที่มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
นำท่านเดินเที่ยวชมเมืองโคโม่ ชมวิวสวยๆ ริมทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของอิตาลี ด้วยพื้นที่กว้างถึง 146 ตารางกิโลเมตร และด้วยความลึกสูงสุดถึง 400 เมตร ทำให้เป็น 1 ใน 5 ทะเลสาบที่ลึกที่สุดของทวีปยุโรป ที่มีต้นกำเนิดมาจากธารน้ำแข็งในแคว้นลอมบาร์ดี อิสระให้ท่านถ่ายภาพคู่กับ มหาวิหารโคโม่ (Como Cathedral) เป็นมหาวิหารโรมันคาธอลิกตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง ใช้เวลาในการสร้างยาวนานกว่า 400 ปี เพื่ออุทิศให้กับพระแม่มารี และมีความสูงถึงยอดโดมประมาณ 75 เมตร
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Belstay Milano Assago หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ตัว เมืองมิลาน (Milan) เมืองแฟชั่นของโลก นำท่านชม จัตุรัสกลางเมือง (Piazza del Duomo) ศูนย์กลางเมือง เป็นสถานที่ตั้งของ มหาวิหารมิลาน (Milan Cathedral) หรือ มหาวิหารดูโอโม (Duomo di Milano) มหาวิหารประจำเมืองขนาดใหญ่แห่งนี้ เป็นวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอิตาลีรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่ตั้งอยู่ที่นครรัฐวาติกัน โดดเด่นด้วยศิลปะแบบโกธิคที่ตกแต่งด้านนอกด้วยยอดแหลมจำนวนมากถึง 135 ยอด ด้วยความสูง 157 เมตรและกว้างถึง 92 เมตร จึงได้ชื่อว่าเป็นมหาวิหารแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมด้วยรูปแกะสลักจากหินอ่อนจำนวนมากที่ประดับอยู่โดยรอบ **ไม่รวมค่าบัตรเข้าชมมหาวิหาร ประมาณ 5 ยูโร (EUR) หรือ ท่านละประมาณ 200 บาท**
บริเวณจัตุรัสแห่งนี้ยังมีสัญลักษณ์ที่เด่นอยู่อีกคือ อนุสาวรีย์พระเจ้าเอ็มมานูเอลที่ 2 (Monument to Vittorio Emanuele II) ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆ ในอิตาลี อนุสาวรีย์แห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1896 เพื่อเป็นเกียรติแด่พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ที่ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์แรกของอิตาลีในปี 1861 เป็นรูปปั้นทรงม้าในอิริยาบถกำลังออกรบอยู่บนแท่นหินอ่อน
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
อิสระให้ท่านเดินเล่น และช้อปปิ้งที่ Galleria Vittorio Emanuele II ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของมหาวิหารมิลาน เป็นห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลี โดยสร้างขึ้นในปี 1877 มากมายด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย อาทิเช่น Louis Vuitton, Gucci, Armani, Borsalino, Luisa Spagnoli, Bric’s, Tod’s, Swarovski, Stefanel, Massimo Dutti เป็นต้น ในอาคารขนาด 4 ชั้นสองข้างทางเดินกว้าง ที่โดดเด่นมากก็คือหลังคาทรงโดมเป็นกระจกใส ทำให้สามารถช้อปปิ้งได้ในทุกสภาพอากาศ
** อิสระอาหารมื้อเย็น เพื่อการช้อปปิ้งอย่างต่อเนื่อง **
ที่พัก Belstay Milano Assago หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำทุกท่านเดินทางไปยัง Serravalle Designer Outlet เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่มากที่สุดของยุโรป อิสระให้ท่านเดินเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม และแฟชั่นท้องถิ่นแบรนด์อิตาลี ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับต่างๆ อาทิเช่น Gucci, Prada, Givenchy, Burberry, Nike, Adidas, Michale Kors, Calvin Klein, Benetton, Guess, Dolce & Gabbana นอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร และคาเฟ่หลากหลายให้ท่านเลือกใช้บริการ
** อิสระอาหารมื้อกลางวัน เพื่อการช้อปปิ้งอย่างต่อเนื่อง **
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมิลาน เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ประเทศไทย และเผื่อเวลาในการทำ Tax Refund ที่สนามบิน
21.35 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK92 (บริการอาหาร และเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.45 น. แวะเปลี่ยนเครื่องที่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
09.30 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK372 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
18.40 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
1279/1053 ตำบล ท้ายบ้านใหม่ อำเภอ เมืองสมุทรปราการ จังหวัด สมุทรปราการ 10280